น้อมรำลึก ครบรอบ5 ปี มรณกาล หลวงปู่สอ ขันติโก วัดโพธิ์ศรี จ.นครพนม
น้อมรำลึก ครบรอบ5 ปี มรณกาล หลวงปู่สอ ขันติโก วัดโพธิ์ศรี จ.นครพนม
วันเสาร์ที่ 6 ก.ค.2567 น้อมรำลึกครบรอบ 5 ปี มรณกาล “หลวงปู่สอ ขันติโก” วัดโพธิ์ศรี ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม อดีตพระเถระที่เคร่งครัด เปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและสาธุชนโดยทั่วไป
เป็นศิษย์สืบสายธรรม หลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งลุ่มน้ำสองฝั่งโขงไทย-ลาว
มีนามเดิมว่า สอ แก้วดี เกิดในตระกูลชาวนา เมื่อวันจันทร์ ปีมะเส็ง พ.ศ.2448 ตามคำบอกเล่าของผู้ใกล้ชิดระบุว่าเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2448 ปีมะเส็ง ตรงกับปลายสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นชาวบ้าน บ้านบะหว้า หมู่ 10 ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม บิดาชื่อ นายเพ็ง เป็นชาวลาว มารดา ชื่อ นางจันทร์ ครอบครัวมีพี่น้องร่วมกัน 6 คน
เมื่อแรกเกิดแม่บอกว่าบุตรชายมีสายรกพันคอ จะได้บวช
ส่วนชีวิตในวัยเด็ก เป็นคนที่เรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน นิสัยชอบเข้าวัดฟังธรรม ผิดกับเด็กอื่นวัยเดียวกัน
มีโอกาสเข้ากราบนมัสการหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน เกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงขอติดตามไปยังภูเขาควายฝั่งลาวและได้บวชเป็นสามเณร คอยรับใช้อุปัฏฐากเล่าเรียนสรรพวิชาต่างๆ ด้วย
กระทั่งอายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท โดยมีหลวงปู่สีทัตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
อยู่รับใช้อุปัฏฐากหลวงปู่สีทัตถ์เป็นระยะเวลาหนึ่ง จึงได้ออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ตามป่าเขา ถ้ำภูผาต่างๆ จนได้ทราบข่าวอาการป่วยของโยมแม่ ในขณะนั้นมีอายุ 32 ปี พรรษา 12 จึงรีบเดินทางกลับ โดยลาสิกขาออกมาดูแลแม่จนถึงวาระสุดท้าย
ในเวลาต่อมา จึงขอเข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง
เป็นพระที่เคร่งครัดในธรรมวินัย วัตรปฏิบัติดี ด้วยความที่มีจิตใจแน่วแน่ในการแสวงหาทางหลุดพ้นตามรอยตถาคต จึงได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ตามป่าเขาในเขตพื้นที่ภาคอีสาน
ข้ามไปยังฝั่งลาว จำพรรษาพัฒนาวัดบ้านบุ่งอยู่หลายปี ก่อนออกเดินทางไปพบหลวงปู่สีทัตถ์อีกครั้ง เฝ้าอุปัฏฐากจนกระทั่งมรณภาพ
หลังจากนั้นกลับข้ามมาที่ฝั่งไทย จำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรี บ้านบะหว้า ต.รามราช ในขณะนั้นยังมีครูบาอาจารย์ที่เป็นทั้งสหธรรมิกและศิษย์ผู้พี่หลายท่าน อาทิ หลวงปู่สนธิ์ วัดท่าดอกแก้ว ศิษย์ผู้ใหญ่ในหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน ซึ่งมีศักดิ์เป็นศิษย์ผู้พี่, หลวงปู่คาร คันธิโย, หลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม ขอศึกษาด้วยอยู่เป็นระยะ
เคยเป็นพระเกจิที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน ดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย แม้อายุมากแต่สายตามองเห็นชัด หูได้ยินเป็นปกติ สนทนากับญาติโยมได้สบาย ฉันภัตตาหารเนื้อปลา ยอดผักสด กล้วยน้ำว้าวันละ 1 ลูก
ด้านวัตถุมงคลไม่ได้จัดสร้างบ่อยนัก นานครั้งในวาระพิเศษ จึงจัดสร้างสักครั้งหนึ่ง จะเน้นคำสอนให้ลูกศิษย์นำไปปฏิบัติมากกว่า แต่จะอนุญาตให้ศิษย์ใกล้ชิดสร้างขึ้นเป็นพิเศษ ทำให้วัตถุมงคลมีจำนวนไม่มากนัก แต่ก็ได้รับความนิยม
ช่วงปัจฉิมวัย อาพาธมานานหลายเดือน คณะแพทย์จาก ร.พ.นครพนม และร.พ.ท่าอุเทน เข้ารักษาอาการอาพาธอย่างใกล้ชิด ต่อมามีอาการปอดติดเชื้อ ความดันลดลง กระทั่งละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา 18.12 น. วันที่ 6 ก.ค.2562 สิริอายุ 114 ปี พรรษา 94
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น