ประวัติ พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จังหวัดมหาสารคาม
ประวัติ พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จังหวัดมหาสารคาม
“พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ” หรือ “พระวชิรญาณวิศิษฏ์” เป็นพระเกจิชื่อดังมหาสารคาม สืบสายธรรมจาก “หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ” อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคอีสาน จ.นครพนม
ปัจจุบัน สิริอายุ 45 ปี พรรษา 25 ดำรงตำแหน่งประธานสงฆ์วัดป่าวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม
มีนามเดิมว่า สุริยันต์ วันสาสืบ เกิดเมื่อวันที่ 13 ก.พ.2522 ที่บ้านเหล่าโคกพระ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม บิดา-มารดาชื่อ นายธงชัย และนางละมุน เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 2 คน
ช่วงวัยเยาว์ เรียนหนังสือจบชั้น ป.6 ที่โรงเรียนบ้านเหล่าโคกพระ อ.กันทรวิชัย
อายุได้ 15 ปี บรรพชาที่วัดดอนกลอย ต.หนองอีเฒ่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นไปอยู่กับพระอาจารย์เหรียญชัย มหาปัญโญ ที่วัดถ้ำสุมณฑา เป็นเวลา 1 ปี และย้ายไปพำนักในถ้ำบังบด บ้านหนองห่าง อ.กุฉินารายณ์
ครั้นอายุครบบวช 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่อุโบสถวัดสามัคคีธรรม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2542 มีพระครูสุทธิธนารักษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ประสิทธิ์ เตชธัมโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระอาจารย์เคี่ยม วิริโย เป็นพระกรรมวาจาจารย์
อยู่จำพรรษาปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่วัดบูรพาเทพนิมิต อ.กุฉินารายณ์ ด้วยความที่เป็นพระหนุ่มไฟแรง ต้องการแสวงหาความหลุดพ้นจึงออกเดินธุดงค์ไปจำพรรษาอยู่ตามป่าเขาหลายแห่งในภาคอีสาน อาทิ วัดถ้ำเสือ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี และได้ข้ามไปยัง สปป.ลาว กำแพงนครเวียงจันทน์ และไปไกลถึงสุดชายแดนภาคใต้ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
หลายปีต่อมา รับทราบกิตติศัพท์ของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังจังหวัดนครพนม ว่าเป็นพระปฏิบัติดี มีวิทยาคมที่เข้มขลัง จึงเดินทางไปวัดพระธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม
จึงฝากตัวขอเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคม โดยได้รับการถ่ายทอดวิชาให้จนหมดสิ้นไม่ว่าจะเป็นหัวใจคาถา 108 วิธีการตั้งธาตุหนุนธาตุเสริมธาตุ พระคาถาปฐวีธาตุ และเคล็ดปฏิบัติกัมมัฏฐาน สัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นระยะนาน 4 ปี รวมทั้งศึกษาอักษรธรรม ทำให้มีความรู้ด้านอักขระโบราณอีกแขนงหนึ่งด้วย
นอกจากนี้ ยังเดินทางไปศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมกับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่าน อาทิ หลวงปู่พรหม วัดเขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และศึกษาวิชาตะกรุดกับหลวงปู่สิงห์ คัมภีโร วัดศรีสุข อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม อดีตพระเกจิชื่อดัง
หลังกลับมาจำพรรษาอยู่วัดบูรพาเทพนิมิต จ.กาฬสินธุ์ จนถึงปี พ.ศ.2549 ญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธาจึงได้นิมนต์ให้มาสร้างวัดปัจจุบัน คือ วัดพุทธวราราม หรือ วัดป่าวังน้ำเย็น ตั้งอยู่หมู่ 14 ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม โดยนางจำเนียร แซ่อึ้ง มีจิตศรัทธาบริจาคที่ดินจำนวน 11 ไร่ และร่วมกับญาติโยมพัฒนาวัดป่าวังน้ำเย็น จนเจริญรุ่งเรืองดังปรากฏอยู่ทุกวันนี้
ก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัด หลายรายการสร้างจากวัสดุไม้ล้วน อาทิ หอระฆัง ศาลาปฏิบัติธรรมไม้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างจากไม้เนื้อแข็งประกอบด้วย ไม้แดง ไม้ประดู่ และตกแต่งด้วยไม้สักทอง เสา 112 ต้น และอุโบสถไม้ซุงใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นต้น
ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญของจังหวัด ในวันธรรมดาและช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดยาว จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ เดินทางมาเที่ยวชมวัดแห่งนี้อย่างเนืองแน่น
ลำดับสมณศักดิ์ ในปี พ.ศ.2559 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามที่ พระครูภาวนาชยานุสิฐ
พ.ศ.2566 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ “พระวชิรญาณวิศิษฏ์
รางวัลเกียรติคุณ พ.ศ.2566 สภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีมติให้ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพระพุทธศาสนา
ด้านวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่ปรารถนาของบรรดานักสะสมนิยมวัตถุมงคล แม้จะได้รับความนิยม แต่ไม่เคยอวดโอ่
นับเป็นพระเกจิรุ่นใหม่มาแรง ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง
แต่ละวันมีสาธุชนจากทุกสารทิศเดินทางมากราบไหว้รับฟังธรรมะเป็นจำนวนมาก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น