ประวัติ หลวงพ่อสุข สังฆโสภโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี
ประวัติ หลวงพ่อสุข สังฆโสภโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี
“พระมงคลวชิราจารย์” หรือ
“หลวงพ่อสุข สังฆโสภโณ” พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาตะเครา
อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี และอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบ้านแหลม
มีนามเดิมว่า
นายประสพ แสงสุริยา เกิดเมื่อวันที่ 22 ก.ย.2465 ที่บ้านคลองไหหลำ
อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาครบิดา-มารดาชื่อ นายแดงและนางปาน แสงสุริยา
ในช่วงวัยเยาว์ได้เข้าเรียนในโรงเรียนหมู่บ้าน มุมานะศึกษาหาความรู้มิได้ขาด
เมื่อย่างเข้าวัยหนุ่ม
อายุครบ 22 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2487 ที่วัดเขาตะเครา
อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี โดยมีพระครูมหาวิหาราภิรักษ์
เจ้าอาวาสวัดใหญ่สุวรรณาราม เป็นพระอุปัชฌาย์
มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดเขาตะเครา
ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเขาตะเครามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2495
กระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2520 เป็นเจ้าคณะอำเภอบ้านแหลม
เมื่อปี พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระมงคลวชิราจารย์
เป็นพระนักพัฒนาสนับสนุนส่งเสริมการศึกษาและพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง
สร้างอาคารเรียนให้แก่โรงเรียนวัดเขาตะเครา และโรงเรียนบ้านบางหอ
มอบทุนการศึกษา ทุนพัฒนาโรงเรียนในเขต อ.บ้านแหลม จำนวน 32 แห่ง
เป็นผู้ริเริ่มจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา
โดยนำให้สถานศึกษา
นำนักเรียน นักศึกษามาเข้าวัดปฏิบัติธรรม จัดกิจกรรมเดิน-วิ่งมินิมาราธอน
เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาติดต่อกันกว่า 15 ปี
อีกทั้งยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมปลุกเสกวัตถุมงคล
ที่มีชื่อเสียงวัตถุมงคลที่รู้จักกันทั่วไปคือ พระสมเด็จสะดุ้งกลับ,
พระสมเด็จปรกโพธิ์, พระสมเด็จนางพญา, พระพุทธโสฬส เป็นต้น
นอกจากนี้
ยังทำคุณประโยชน์แด่พระพุทธศาสนามาอย่างต่อเนื่อง
เป็นผู้ปฏิรูปความเป็นอยู่ของคณะสงฆ์ในวัดด้วยการสร้างกุฏิสงฆ์
ปรับภูมิทัศน์โดยรอบเขาตะเครา ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ
สร้างมณฑปประดิษฐานหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา
สร้างอาคารอเนกประสงค์เฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วัดเขาตะเคราตั้งอยู่
ต.บางครก อ.บ้านแหลม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย สูง 29 นิ้ว
หน้าตักกว้าง 21 นิ้ว เรียกกันว่า “หลวงพ่อเขาตะเครา”
มีชาวเมืองและนักท่องเที่ยวไปกราบไหว้ปิดทองเป็นอันมาก
จนกระทั่งบัดนี้แลไม่เห็นพุทธลักษณะเดิม
มีประวัติเล่าถึงหลวงพ่อเขาตะเคราองค์นี้ว่าเป็นพระพุทธรูปพี่น้อง
3 องค์กับหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา และหลวงพ่อบ้านแหลม จ.สมุทรสงคราม
ที่มาขอหลวงพ่อเขาตะเคราเล่าว่า
เมื่อปลายสมัยอยุธยา
ตอนที่ชาวบ้านแหลมเมืองเพชรบุรีหลบหนีพม่าไปตั้งหลักแหล่งอยู่ที่ปากน้ำแม่กลอง
จนกระทั่งกลายเป็นบรรพบุรุษของชาวสมุทรสงครามในทุกวันนี้
วันหนึ่งชาวประมงบ้านแหลมไปตีอวนที่ปากอ่าว
ได้พระพุทธรูปขึ้นมา 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นพระยืนปางอุ้มบาตร
อีกองค์หนึ่งเป็นพระปางมารวิชัย
ชาวบ้านแหลมนำพระยืนไปประดิษฐานที่วัดบ้านแหลมเดี๋ยวนี้ คือ
วัดเพชรสมุทรวิหาร กลางเมืองสมุทรสงคราม
ส่วนอีกองค์มอบให้ญาติชาวบางตะบูนนำมาประดิษฐานที่วัดเขาตะเครา อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี
หลวงพ่อสุขยังได้สร้างมหาเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุบนยอดเขาตะเครา
สร้างศาลาท่าน้ำ สถานีอนามัย สถานีตำรวจชุมชนสาขาย่อย
ต.บางครกส่งเสริมกีฬาและศิลปวัฒนธรรมประเพณี
เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาต่างๆ
จนสร้างชื่อเสียงให้วัดเขาตะเคราเป็นที่รู้จักของปวงชนชาวไทยและพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป
ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง
บ่ายวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค.2553 ถือเป็นวันแห่งความเศร้าสลดอย่างถึงที่สุด
สำหรับบรรดาศิษยานุศิษย์ของพระมงคลวชิราจารย์ หรือหลวงพ่อสุข
สังฆโสภโณเจ้าอาวาสวัดเขาตะเครา อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี
หลังได้รับทราบข่าวร้ายเมื่อพระเกจิชื่อดังแห่งวัดเขาตะเครา
ซึ่งมีอาการอาพาธด้วยโรคชรา ได้มรณภาพอย่างสงบ ด้วยวัย 88 ปี พรรษา 66
การจากไปจึงสร้างความเศร้าสลดอาลัยเป็นอย่างยิ่ง
—-



ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น