รำลึกครบ 11 ปี มรณกาล “หลวงพ่อสาคร มนุญโญ” วัดหนองกรับ จ.ระยอง

รำลึกครบ 11 ปี มรณกาล “หลวงพ่อสาคร มนุญโญ” อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองกรับ จ.ระยอง 

 


 


วันพุธที่ 18 ก.ย.2567 น้อมรำลึกครบ 11 ปี มรณกาล “หลวงพ่อสาคร มนุญโญ” หรือ “พระครูมนูญธรรมวัตร” อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองกรับ หมู่ 3 ต.หนองกรับ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง อดีตพระเกจิอาจารย์ในระดับแนวหน้า เป็นศิษย์เอกของหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง

มีนามเดิมว่า สาคร ไพสาลี เกิดวันอังคารที่ 3 ก.พ.2481 ที่บ้านท้ายทุ่ง หมู่ 2 ต.หนองกรับ อ.บ้านค่าย บิดา-มารดา ชื่อ นายกุ และนางนิด ไพสาลี มีพี่น้องทั้งหมด 2 คน

ช่วงวัยเยาว์ เข้าศึกษาเบื้องต้นในชั้นประถมปีที่ 1 เมื่ออายุ 5 ขวบ ที่โรงเรียนวัดหนองกรับ จนจบชั้นประถมปีที่ 4 พ.ศ.2490 ออกมาช่วยครอบครัวประกอบอาชีพทำนา

เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันพุธที่ 4 มิ.ย.2501 ที่วัดหนองกรับ อ.บ้านค่าย โดยมีพระครูจันทโรทัย (หลวงพ่อดิ่ง) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระอธิการเคียง วัดไผ่ล้อม อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า มนุญโญ

จากนั้นเดินทางไปอยู่จำพรรษาที่วัดละหารไร่ ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและพุทธาคมจากหลวงปู่ทิม
นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาวิทยาคมจากหลวงพ่อเพ่ง สาสโน วัดละหารใหญ่ อีกทั้งได้รับคำแนะนำจากหลวงปู่ทิมให้ไปศึกษาวิชาจากหลวงปู่หิน วัดหนองสนม ซึ่งหลวงพ่อสาครก็ได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หินถ่ายทอดวิชาให้เป็นอย่างดี

หลังจากศึกษาวิชาจากหลวงปู่หิน จึงเดินทางไปศึกษาวิชากับหลวงปู่โสม วัดบ้านช่อง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพระที่มีวิทยาคมแก่กล้าอีกรูปหนึ่งของภาคตะวันออก

เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีลูกศิษย์ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ชาวเมืองระยองและจังหวัดใกล้เคียงร่ำลือถึงความประพฤติปฏิบัติในพระธรรมวินัย และยังเป็นพระเถระที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน แสวงหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ ทั้งตำรับตำราของหลวงปู่ทิมที่ถ่ายทอดความรู้และตำรับคาถาอาคม มอบให้เก็บรักษาดูแลต่อไป โดยเฉพาะการลงอักขระเขียนยันต์ที่สวยงาม ซึ่งมีฝีมือยิ่งในเชิงช่างและการออกแบบที่เป็นความสามารถเฉพาะตัว

สำหรับตำราสมุดข่อยโบราณ ที่เขียนถึงการสักยันต์ รูปยันต์ต่างๆ ก่อนที่หลวงปู่ทิมจะละสังขาร มอบสมุดข่อยซึ่งเป็นตำราให้หลวงพ่อสาคร ซึ่งสมุดข่อยนี้ได้เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ยันต์ วัดหนองกรับ ที่สร้างขึ้นเป็นพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้แก่ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาหาข้อมูล

เมื่อครั้งที่รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองกรับ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ มีอายุกว่า 200 ปี และวัดเคยถูกไฟไหม้จนวอดวาย หลวงพ่อสาครบูรณะและสร้างเสนาสนะใหม่ขึ้นมา เพื่อให้ภิกษุ-สามเณรและพุทธศาสนิกชนใช้ปฏิบัติศาสนกิจ

ในปี พ.ศ.2524 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูมนูญธรรมวัตร

ด้านวัตถุมงคล สร้างพระเครื่องวัตถุมงคลขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อปีพ.ศ.2508 มีด้วยกันสองพิมพ์ พิมพ์แรกเป็นพระสมเด็จรัศมี เนื้อผงใบลานเก่าสีดำอีกพิมพ์หนึ่งเป็นรูปปั้นหลวงปู่ทิม เนื้อผงใบลาน สีดำ นำออกมาแจกแก่ญาติโยมครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2510 ในงานทอดผ้าป่า

ส่วนวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม เช่น เหรียญรูปเหมือน, พระขุนแผน พิมพ์ใหญ่รุ่นแรก ปี พ.ศ.2530 และพระขุนแผนผงพรายกุมาร ฝังตะกรุดทองคำ พ.ศ.2538 และพ.ศ.2545 เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก (50 พรรษา) หลังยันต์ห้า และหลังยันต์นะโภคทรัพย์ กริ่งชินบัญชร (หน้าจีน) พ.ศ.2530 รวมทั้งชูชก

ปฏิบัติงานศาสนกิจด้วยดี อบรมสั่งสอนพระธรรมวินัยแก่พระภิกษุสามเณรและศิษย์วัดในการปกครอง อบรมสั่งสอนศีลธรรมจริยธรรมแก่พุทธบริษัทอย่างสม่ำเสมอ บำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม

แต่ด้วยอายุขัยที่ล่วงเลยเข้าสู่วัยชราภาพ สุขภาพไม่แข็งแรงดังเดิม ท่านอาพาธด้วยโรคถุงลมโป่งพอง ต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ

แม้คณะแพทย์จะได้พยายามรักษาเยียวยาจนสุดความสามารถ แต่ไม่สามารถยื้ออาการไว้ได้ มรณภาพอย่างสงบ เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 18 ก.ย.2556 ที่โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์

สิริอายุ 75 ปี พรรษา 55


ความคิดเห็น