รำลึก 214 ปี ชาตกาล “หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ” วัดบางคลาน จ.พิจิตร

น้อมรำลึกครบรอบ 214 ปี ชาตกาล “หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ” วัดบางคลาน จ.พิจิตร พระเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองพิจิตร

วันจันทร์ที่ 16 ก.ย.2567 น้อมรำลึกครบรอบ 214 ปี ชาตกาล “หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ” วัดบางคลาน จ.พิจิตร พระเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองพิจิตร

เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ก.ย.2353 เป็นชาวบ้าน ต.บางคลาน จ.พิจิตร บิดาชื่อนายอู๋ มารดาชื่อนางฟัก มีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันทั้งหมด 6 คน

อายุ 12 ปี (พ.ศ.2365) บรรพชา ศึกษาพระปริยัติธรรม วิทยาการต่างๆ จนแตกฉาน

เมื่ออายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดชนะสงคราม ได้รับฉายา พุทธโชติ จำพรรษาเพื่อปฏิบัติธรรมวินัยเรียนทางวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่ได้ 3 พรรษา ขณะที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดชนะสงคราม ได้ไปถวายตัวเป็นศิษย์ เพื่อศึกษาศิลปวิทยาคม ตลอดจนเรียนวิปัสสนาธุระ จากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี วัดระฆังโฆสิตาราม

ต่อมากลับไปจำพรรษาที่วัดคงคาราม (วัดบางคลานใต้) อ.บางคลาน จ.พิจิตร บ้านเดิมของท่านอยู่ได้ 1 พรรษา ก่อนย้ายไปอยู่หมู่บ้านวังตะโก ซึ่งลึกเข้าไปในทางลำน้ำแควพิจิตรเก่า โดยหักกิ่งโพธิ์ไปด้วย 3 กิ่ง และปักลงตรงบริเวณป่าตะโก อธิษฐานจิตว่า ถ้าข้าพเจ้าได้มาสร้างวัด ณ สถานที่แห่งนี้ ถ้ามีความเจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคตข้างหน้า ขอให้กิ่งโพธิ์ทั้ง 3 กิ่ง เจริญงอกงามตามไปด้วย

ปรากฏว่าเป็นไปตามคำอธิษฐานทุกประการ สร้างกุฏิ วิหาร อุโบสถและเสนาสนะภายในวัด จนสมบูรณ์

ซึ่งต่อมาพื้นที่แถบนั้น ปรากฏเป็น “วัดวังตะโก” เกิดขึ้น พระอารามแห่งนี้ เป็นผู้สร้างไว้เมื่อประมาณปี พ.ศ.2377 ต่อมาวัดวังตะโก หรือวัดหิรัญญาราม เจริญอย่างรวดเร็ว มีผู้คนเคารพนับถือและถวายตัวเป็นศิษย์ ขอฟังธรรม ขอเครื่องรางของขลัง และขอให้หลวงพ่อรักษาโรคให้

นับเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เลื่องชื่อด้านวิทยาคมแห่งเมืองพิจิตร สามารถรู้ผู้มาเยือนด้วยญาณวิเศษ ร่ำลือกันไปไกลมาก จนถึงขนาดเสด็จในกรม “กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์” ยังเสด็จไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้วย

ด้านการก่อสร้าง เป็นนักก่อสร้าง ควบคุมการก่อสร้างด้วยตนเอง รวบรวมปัจจัยจากการสร้างวัตถุมงคล เงินบริจาค สิ่งที่ท่านชอบสร้างอีกอย่างหนึ่งคือศาลาพักร้อน เพื่อคนสัญจรไปมา

ด้านการรักษาโรคด้วยวิชาแพทย์แผนโบราณ เป็นหมอแผนโบราณ ทางด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยยาสมุนไพรหรือบางครั้งก็ใช้น้ำมนต์ ซึ่งก็ให้ผลในด้านกำลังใจ

ยังเป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงด้านวิปัสสนา เป็นศิษย์รุ่นเดียวกันกับหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ซึ่งท่านได้แนะนำให้กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ได้มาเรียนวิชาทางวิปัสสนากับหลวงพ่อเงิน รวมทั้งสมเด็จพระสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ก็เสด็จมาประทับที่วัดวังตะโก อยู่หลายวัน เพื่อเรียนทางด้านวิปัสสนา

ลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงอาทิ หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง, หลวงพ่อน้อย วัดคงคาราม, พระปลัดชุ่ม วัดท้ายน้ำ, หลวงพ่อหอม วัดหลวง, หลวงพ่อนวล วัดหาดมูลกระบือ, หลวงพ่อฟุ้ง วัดปากน้ำ, หลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย, หลวงพ่อไป๋ วัดท่าหลวงพล, หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ เป็นต้น

กาลต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ฝ่ายวิปัสสนาจารย์

มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันศุกร์เดือน 10 แรม 11 ค่ำ ปีมะแม เวลา 05.00 น. ตรงกับวันที่ 20 ก.ย.2462 ที่วัดวังตะโก อ.บางคลาน จ.พิจิตร สิริอายุ 109 ปี
——