รำลึก 56 ปี มรณกาล หลวงพ่อเส็ง ธัมมธโร วัดหนองเรือโกลน จ.อุทัยธานี

รำลึก 56 ปี มรณกาล หลวงพ่อเส็ง ธัมมธโร อดีตพระเกจิชื่อดังวัดหนองเรือโกลน จ.อุทัยธานี

 


 


วันเสาร์ที่ 5 ต.ค.2567 น้อมรำลึกครบรอบ 56 ปี มรณกาล “พระครูอุปการพิสิฏฐ์” หรือ “หลวงพ่อเส็ง ธัมมธโร” อดีตพระเกจิชื่อดังวัดหนองเรือโกลน ต.หนองกลางดง อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

มีนามเดิม เส็ง เกิดศรี เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ปีเถาะ ตรงกับปีพ.ศ.2434 ที่ ต.ทุ่งนาไทย อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี เป็นบุตรของนายใย และนางอิ่ม เกิดศรี

เมื่อเกิดได้ 7 วัน มารดาก็ถึงแก่กรรม บิดาจึงนำไปฝากไว้กับนางห่อ ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าเป็นผู้เลี้ยงดูและบิดาได้แต่งงานใหม่ มีบุตรกับภรรยาใหม่ด้วยกัน 10 คน

อายุเข้าสู่วัยเรียน นางห่อได้นำไปฝากเรียนหนังสือไทยกับพระอาจารย์จากวัดทัพทันวัฒนาราม และต่อมาได้นำไปฝากไว้กับนางพลอย ซึ่งนางพลอยได้รักเหมือนลูก เนื่องจากเป็นคนขยัน มัธยัสถ์ มีความเป็นระเบียบ

พออายุย่างเข้า 18 ปีจึงนำไปฝากกับพระสมุห์เพชร เจ้าอาวาสวัดเขาโคกโค บรรพชาเมื่อวันที่ 15 เม.ย.2453

อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดมะเดื่อ เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2454 โดยมีพระใบฎีกาแจ้ง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า ธัมมธโร

ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาโคกโค ต่อมาได้ไปศึกษานักธรรมที่สำนักวัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรีเมื่อพ.ศ.2456 และกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาโคกโคตามเดิม

ศึกษาความรู้ด้านตำรายาโบราณและไสยศาสตร์ ในเวลาต่อมาได้ไปถวายตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เมื่อจบแล้วได้ออกธุดงค์ไปกับพระกอง โดยได้ไปนมัสการพระเจดีย์ชเวดากองที่ประเทศพม่า และกลับมาอยู่วัดเขาโคกโค

จนในปี พ.ศ.2471 นายสังวาลย์ นางคล้อย คหบดีบ้านหนองเรือโกลน ญาติกับนางพลอยได้ไปนิมนต์ให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองเรือโกลน เมื่อมาอยู่ใหม่ที่วัดแห่งนี้เป็นป่ารกอยู่มาก กุฏิเป็นหลังเก่าๆ และมีพระภิกษุอยู่จำพรรษาเพียง 2-3 รูป

จึงได้เริ่มวางโครงการบูรณะวัดหนองเรือโกลนจนเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรืองสง่างามอีกวัดหนึ่งของอำเภอทัพทัน

นอกจากนี้ ยังเป็นหมอยาแผนโบราณที่ดังในอำเภอทัพทัน คือ ท่านจะรับรักษาคนวิกลจริต ใครที่เป็นคนวิกลจริตมาให้หลวงปู่รักษาก็หายทุกราย โดยมีคนที่มารอรับการรักษาจากหลวงพ่อเส็งเต็มลานวัดหนองเรือโกลน

ด้านวัตถุมงคลมีไม่มากรุ่นนัก ที่จัดทำขึ้นนั้นเป็นที่นับถือของลูกศิษย์ในอำเภอทัพทันและทั่วไป

ถือเป็นตัวอย่างอันดีในด้านความขยันทำงาน พอฉันอาหารแล้วท่านจะพาศิษย์ปัดกวาด ถากถาง ปลูกต้นไม้ ปรับบริเวณอยู่มิได้ขาด เมื่อได้หัวหญ้าแห้วหมูก็จะนำมาตากแดดไว้เป็นปีๆ เพื่อนำมาแลกเสื้อผ้าให้เด็กที่อยู่อาศัยด้วย แม้ดอกพิกุล ข้าวตาก ก็ทำเช่นเดียวกัน พระภิกษุและเด็กที่อยู่ด้วยจะเกียจคร้านไม่ได้ จะต้องหางานให้ทำ เช่น สานตะแกรง 8 มุม 16 มุม แม้แต่ในขณะที่ท่านนั่งอยู่เฉยๆ ไม่มีใครเข้าไปสนทนาด้วย หลวงพ่อก็จะต้องตัดใบตองสูบบุหรี่ใบเท่าๆ กันทุกใบเก็บไว้เป็นแหนบจำนวนหลายพัน วัดใดมีงานก็นำไปถวายให้ใช้กัน

นอกจากนี้ ยังมีความมัธยัสถ์ที่หาตัวจับยาก มีความเมตตา เมื่อท่านจัดทำยาลม ยาแก้ไข้ ก็จะแจกจ่ายไปทั่ว ผู้ที่เจ็บป่วย เช่น บุคคลที่เสียจริต เป็นไข้หรือจิตใจไม่สบายก็ช่วยอนุเคราะห์จัดการรักษาให้มิได้ขาด

ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2511 ตรงกับวันเสาร์ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ปีวอก ละสังขารจากไปด้วยอาการอันสงบ สิริอายุ 77 ปี พรรษา 57

——-


ความคิดเห็น